นโยบายความเป็นส่วนตัว
บริษัท รีเจ้นท์ บางกอก เอดูเคชั่น จำกัด (“บริษัท”) ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ได้อธิบายแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสิทธิต่าง ๆ ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่าง ๆ ของท่าน โดยตรงจากท่านหรือโดยอ้อมจากแหล่งข้อมูลอื่น ๆ หรือจากบริษัทในเครือ หรือพันธมิตรทางธุรกิจ ตามที่ท่านติดต่อสื่อสารกับบริษัท และตามความต้องการของท่านในสินค้าและบริการของทางบริษัทและบริษัทในเครือ โดยผ่านทางช่องรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงช่องทางดังต่อไปนี้
- การสมัครสมาชิก
- โทรศัพท์
- อีเมล
- Facebook Login
- Google Login
- Line Login
บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทเข้าถึงได้จากแหล่งอื่น เช่น โปรแกรมค้นหา (Search Engine) โซเชียลมีเดีย หน่วยงานราชการ บุคคลภายนอกอื่น ๆ เป็นต้น
กรณีท่านได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคล (เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ และข้อมูลติดต่อ) ของบุคคลอื่น ท่านควรมั่นใจว่าท่านมีสิทธิหรือมีอำนาจที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว และอนุญาตให้บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวตามนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ได้ อีกทั้งท่านต้องรับผิดชอบในการแจ้งบุคคลนั้นให้ทราบถึงนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ และ/หรือขอความยินยอมจากบุคคลนั้น หากจำเป็นและ/หรืออาศัยฐานทางกฎหมายอื่น
ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม
บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่าง ๆ ของท่าน โดยตรงจากท่านหรือโดยอ้อมจากแหล่งข้อมูลอื่น ๆ หรือจากบริษัทในเครือ หรือพันธมิตรทางธุรกิจ ตามที่ท่านติดต่อสื่อสารกับบริษัท และตามความต้องการของท่านในสินค้าและบริการของทางบริษัทและบริษัทในเครือ โดยตัวอย่างประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทอาจเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนไปต่างประเทศ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้
ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น คำนำหน้า ชื่อตัว ชื่อรอง ชื่อสกุล ชื่อเล่น อายุ เพศ วันเดือนปีเกิด สัญชาติ เลขประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง ประวัติการทำงาน ข้อร้องเรียน ความคิดเห็น หรือบันทึกการสนทนาของท่านต่อสินค้าและบริการของบริษัท และการโต้ตอบผ่านทางโซเชียลมีเดีย เป็นต้น
ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่ส่วนตัว ที่อยู่ที่ทำงาน ที่อยู่ตามที่ปรากฏในบัตรประชาชน หมายเลขไปรษณีย์ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรสาร อีเมล บัญชีผู้ใช้งานแอปพลิเคชันไลน์ (Line ID) เป็นต้น และข้อมูลติดต่อทางอิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ
ข้อมูลบัญชี เช่น บัญชีผู้ใช้งานเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือโปรแกรมต่าง ๆ รวมถึงประวัติการใช้งานของสิ่งเหล่านั้น เป็นต้น
หลักฐานแสดงตัวตน เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาเอกสารอื่น ๆ ที่ทางราชการออกให้ซึ่งสามารถระบุตัวตนของผู้เป็นเจ้าของ เป็นต้น
ข้อมูลการทำธุรกรรมและการเงิน เช่น ประวัติการสั่งซื้อสินค้าหรือบริการ รายละเอียดบัตรเครดิต หรือบัตรเดบิต หรือบัตรกดเงินสด รายละเอียดการใช้บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต หรือบัตรกดเงินสด บัญชีธนาคาร ประวัติรายการทางบัญชีธนาคาร ระดับความน่าเชื่อถือ (เครดิต) ระดับเงินเดือน ที่มารายได้ เป็นต้น
ข้อมูลทางเทคนิค เช่น IP address, Cookie ID, ประวัติการใช้งานเว็บไซต์ (Activity Log) เป็นต้น
ข้อมูลอื่น ๆ เช่น รูปภาพ ภาพเคลื่อนไหว และข้อมูลอื่นใดที่ถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น
บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว ดังต่อไปนี้ ก็ต่อเมื่อบริษัทได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน เว้นแต่กฎหมายกำหนดให้ทำได้
- เชื้อชาติ
- เผ่าพันธุ์
- ความคิดเห็นทางการเมือง
- ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา
- ข้อมูลสุขภาพ
- ความพิการ
- ประวัติอาชญากรรม
- ข้อมูลสหภาพแรงงาน
- ข้อมูลพันธุกรรม
- ข้อมูลชีวภาพ เช่น ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า ข้อมูลจำลองม่านตา ข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ
- ข้อมูลอื่นใดที่กระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
ผู้ไร้ความสามารถ
หากท่านเป็นผู้เยาว์ซึ่งอายุไม่ถึง 20 ปีบริบูรณ์ หรือผู้มีข้อจำกัดความสามารถตามกฎหมาย บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ก็ต่อเมื่อผู้แทนโดยชอบธรรม ผู้ใช้อำนาจปกครอง ผู้ปกครอง ผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาลของท่าน แล้วแต่กรณีให้ความยินยอม เว้นแต่เป็นกรณีอาศัยฐานทางกฎหมายให้สามารถกระทำได้โดยปราศจากความยินยอม หากบริษัททราบว่ามีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้ไร้ความสามารถโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้มีอำนาจให้ความยินยอม บริษัทจะดำเนินการลบและทำลายข้อมูลนั้นออกจากเซิร์ฟเวอร์ของบริษัท เว้นแต่เป็นกรณีที่บริษัทอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลได้โดยอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายอื่นนอกเหนือจากความยินยอม
วิธีการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในรูปแบบเอกสารและรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์
บริษัทเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังต่อไปนี้
- เซิร์ฟเวอร์ของบริษัทในประเทศไทย
- เซิร์ฟเวอร์ของบริษัทในต่างประเทศ
- ผู้ให้บริการเซิร์ฟเวอร์ในประเทศไทย
- ผู้ให้บริการเซิร์ฟเวอร์ในต่างประเทศ
วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมเพื่อการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้หรือเปิดเผย
บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
- เพื่อสร้างและจัดการบัญชีผู้ใช้งาน
- เพื่อจัดส่งสินค้าหรือบริการ
- เพื่อปรับปรุงสินค้า บริการ หรือประสบการณ์การใช้งาน
- เพื่อการบริหารจัดการภายในบริษัท
- เพื่อการตลาดและการส่งเสริมการขาย
- เพื่อการบริการหลังการขาย
- เพื่อรวบรวมข้อเสนอแนะ
- เพื่อชำระค่าสินค้าหรือบริการ
- เพื่อปฏิบัติตามข้อตกลงและเงื่อนไข (Terms and Conditions)
- เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบของหน่วยงานราชการ
- เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติซึ่งได้จัดให้มีมาตรการปกป้องที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
- เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
- เพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญาหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านคุณก่อนเข้าทำสัญญานั้น
- เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล เท่าที่เป็นการจำเป็น เว้นแต่ประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
- เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
ทั้งนี้ วัตถุประสงค์ข้อ 11) ถึง 16) เป็นวัตถุประสงค์ตามมาตรา ๒๔ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ซึ่งให้อำนาจในการเก็บรวบรวมได้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
อนึ่ง การที่ท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับบริษัทอาจส่งผลกระทบต่อท่าน กล่าวคือ บริษัทอาจไม่ดำเนินการตามที่ท่านร้องขอหรือตามสัญญาได้โดยบริษัทอาจไม่สามารถเสนอหรือจัดหาสินค้าและบริการของบริษัทแต่บางส่วนหรือทั้งหมดให้แก่ท่านหรือบุคคลภายนอกได้ และท่านอาจไม่ได้รับความสะดวกหรือไม่ได้รับการปฏิบัติตามสัญญา และอาจได้รับความเสียหายหรือเสียโอกาสในบางกรณี การที่ท่านไม่ให้ข้อมูลดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติตามกฎหมายใด ๆ ที่บริษัทหรือท่านมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตาม และอาจมีบทกำหนดโทษที่เกี่ยวข้อง
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้อื่นภายใต้ความยินยอมของท่านหรือที่กฎหมายอนุญาตให้เปิดเผยได้ ดังต่อไปนี้
การบริหารจัดการภายในองค์กร
บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายในบริษัทเท่าที่จำเป็นเพื่อปรับปรุงและพัฒนาสินค้าหรือบริการของบริษัท บริษัทอาจรวบรวมข้อมูลภายในสำหรับสินค้าหรือบริการต่าง ๆ ภายใต้นโยบายนี้เพื่อประโยชน์ของท่านและผู้อื่นมากขึ้น
บริษัทในเครือ
บริษัทอาจเปิดเผย หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบริษัทในเครือ หรืออนุญาตให้บริษัทในเครือสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ได้ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัว
ผู้ให้บริการ
บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านบางอย่างให้กับตัวแทน ผู้รับจ้าง ลูกจ้าง หรือผู้ให้บริการของบริษัทเท่าที่จำเป็นเพื่อดำเนินงานในด้านต่าง ๆ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการชำระเงิน การตลาด การพัฒนาสินค้าหรือบริการ เป็นต้น ทั้งนี้ การเปิดเผยแก่ผู้ให้บริการย่อมอยู่ภายใต้บังคับนโยบายความเป็นส่วนตัวของผู้ให้บริการ
พันธมิตรทางธุรกิจ
บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลบางอย่างกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อติดต่อและประสานงานในการให้บริการสินค้าหรือบริการ และให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการของบริษัทเท่าที่จำเป็น
การบังคับใช้กฎหมาย
ในกรณีที่มีกฎหมายกำหนดไว้หรือหน่วยงานราชการร้องขอตามกฎหมาย บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นให้แก่หน่วยงานราชการ เช่น ศาล สำนักงานอัยการ หน่วยงานราชการอื่นใด เป็นต้น
การโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ
บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคล องค์กร หรือเซิร์ฟเวอร์ (Server) ที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศ โดยบริษัทจะดำเนินการตามมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังประเทศปลายทางนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเพียงพอ หรือกรณีอื่น ๆ ตามที่กฎหมายกำหนด
ระยะเวลาจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตามระยะเวลาเท่าที่จำเป็นในระหว่างที่ท่านเป็นลูกค้าหรือมีความสัมพันธ์อยู่กับบริษัทหรือตลอดระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามนโยบายฉบับนี้ กรณีที่มีกฎหมายกำหนดไว้ บริษัทอาจจำเป็นต้องเก็บรักษาไว้ต่อไปภายหลังจากนั้น ทั้งนี้ บริษัทจะลบ ทำลาย หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ เมื่อหมดความจำเป็นหรือสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว
สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการดำเนินการดังต่อไปนี้
สิทธิขอถอนความยินยอม (right to withdraw consent) หากท่านได้ให้ความยินยอม บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ท่านให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดเวลา
สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล (right to access) ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทและขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยว่าบริษัทได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาได้อย่างไร
สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล (right to data portability) ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทได้จัดทำข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบให้สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติและมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค
สิทธิขอคัดค้าน (right to object) ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในเวลาใดก็ได้ หากการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทำขึ้นเพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น โดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผลหรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์
สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล (right to erasure/destruction) ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือเห็นว่าบริษัทหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือเมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว
สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล (right to restriction of processing) ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่บริษัทอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้านของท่านหรือกรณีอื่นใดที่บริษัทหมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่ท่านขอให้บริษัทระงับการใช้แทน
สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล (right to rectification) ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
สิทธิร้องเรียน (right to lodge a complaint) ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ท่านสามารถใช้สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นได้ โดยติดต่อมาที่เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทตามรายละเอียดท้ายนโยบายนี้ บริษัทจะแจ้งผลการดำเนินการภายในระยะเวลา 30 วัน นับแต่วันที่บริษัทได้รับคำขอใช้สิทธิจากท่าน ตามแบบฟอร์มหรือวิธีการที่บริษัทกำหนด ทั้งนี้ หากบริษัทปฏิเสธคำขอบริษัทจะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือช่องทางอื่น ๆ เช่น ข้อความ (SMS) อีเมล โทรศัพท์ จดหมาย เป็นต้น
การโฆษณาและการตลาด
เพื่อประโยชน์ในการได้รับสินค้าหรือบริการของบริษัท บริษัทใช้ข้อมูลของท่านเพื่อวิเคราะห์และปรับปรุงสินค้าหรือบริการ และทำการตลาดผ่าน Google, Facebook, Pixel tracking code และเว็บไซต์ โปรแกรมหรือแพลตฟอร์มอื่น ๆ บริษัทจะใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อวิเคราะห์และจัดหาสินค้าหรือบริการที่เหมาะสมกับท่าน
บริษัทอาจส่งข้อมูลหรือจดหมายข่าวไปยังอีเมลหรือช่องทางอื่นใดของท่าน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสนอสิ่งที่น่าสนใจกับท่าน หากท่านไม่ต้องการรับการติดต่อสื่อสารจากบริษัทผ่านทางอีเมลอีกต่อไป ท่านสามารถกด “ยกเลิกการติดต่อ” ในลิงก์อีเมลหรือในช่องทางที่ได้รับการติดต่อ หรือติดต่อมายังอีเมลของบริษัทได้
เทคโนโลยีติดตามตัวบุคคล (Cookies)
เพื่อเพิ่มประสบการณ์การใช้งานของท่านให้สมบูรณ์และมีประสิทธิภาพมากขึ้น บริษัทใช้คุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกัน เพื่อพัฒนาการเข้าถึงสินค้าหรือบริการ โฆษณาที่เหมาะสม และติดตามการใช้งานของท่าน บริษัทใช้คุกกี้เพื่อระบุและติดตามผู้ใช้งานเว็บไซต์และการเข้าถึงเว็บไซต์ของบริษัท หากท่านไม่ต้องการให้มีคุกกี้ไว้ในคอมพิวเตอร์ของท่าน ท่านสามารถตั้งค่าบราวเซอร์เพื่อปฏิเสธคุกกี้ก่อนที่จะใช้เว็บไซต์ของบริษัทได้
ท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้คุกกี้และการตั้งค่าคุกกี้ดังกล่าวได้ที่ นโยบายคุกกี้
การรักษาความมั่งคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตามหลักการ การรักษาความลับ (confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน (integrity) และสภาพพร้อมใช้งาน (availability) ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผย นอกจากนี้บริษัทจะจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งครอบคลุมถึงมาตรการป้องกันด้านการบริหารจัดการ (administrative safeguard) มาตรการป้องกันด้านเทคนิค (technical safeguard) และมาตรการป้องกันทางกายภาพ (physical safeguard) ในเรื่องการเข้าถึงหรือควบคุมการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคล (access control)
การแจ้งเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล
ในกรณีที่มีเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเกิดขึ้น บริษัทจะแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลทราบโดยไม่ชักช้าภายใน 72 ชั่วโมง นับแต่ทราบเหตุเท่าที่สามารถกระทำได้ ในกรณีที่การละเมิดมีความเสี่ยงสูงที่จะมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของท่าน บริษัทจะแจ้งการละเมิดให้ท่านทราบพร้อมกับแนวทางการเยียวยาโดยไม่ชักช้าผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ ข้อความ (SMS) อีเมล โทรศัพท์ จดหมาย เป็นต้น
การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว
บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการแก้ไขนโยบายความเป็นส่วนตัว จึงใคร่ขอให้ท่านหมั่นตรวจสอบการแก้ไขปรับปรุงนโยบายความเป็นส่วนตัวอยู่เสมอ โดยการปรับปรุงแก้ไขใด ๆ จะมีผลทันที เมื่อบริษัทประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับปรับปรุงแก้ไขลงในเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของบริษัท
นโยบายความเป็นส่วนตัวของเว็บไซต์อื่น
นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ใช้สำหรับการเสนอสินค้า บริการ และการใช้งานบนเว็บไซต์สำหรับลูกค้าของบริษัทเท่านั้น หากท่านเข้าชมเว็บไซต์อื่นแม้จะผ่านช่องทางเว็บไซต์ของบริษัท การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลต่าง ๆ จะเป็นไปตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเว็บไซต์นั้น ซึ่งบริษัทไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
รายละเอียดการติดต่อ
หากท่านต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ รวมถึงการขอใช้สิทธิต่าง ๆ ท่านสามารถติดต่อบริษัทหรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทได้ ดังนี้
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท รีเจ้นท์ บางกอก เอดูเคชั่น จำกัด
เลขที่ 592 ถนน ประชาอุทิศ แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310
อีเมล enquiry@regents.ac.th
เว็บไซต์ www.regents.ac.th
หมายเลขโทรศัพท์ 02-957-5777
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
เฉลิมพล แย้มนาก
เลขที่ 601/99 ถนน ประชาอุทิศ เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 10310
อีเมล aotz@regents.ac.th
หมายเลขโทรศัพท์ 02-957-5777 ต่อ 228 / 094-4251145