เลือกมหาวิทยาลัยต่างประเทศที่ไหนดี? รวมรายชื่อมหาวิทยาลัยยอดนิยมชั้นนำระดับโลก

เมื่อลูกใกล้เรียนจบจากโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาแล้ว ผู้ปกครองหลายท่านอาจมีความกังวลว่า จะส่งลูกเรียนต่อมหาวิทยาลัยไหนดี? หนึ่งในทางเลือกยอดนิยมสำหรับนักเรียนที่จบการศึกษาจากโรงเรียนนานาชาติ คือ การเรียนต่อมหาวิทยาลัยต่างประเทศ สถานศึกษาที่เปิดโอกาสให้นักเรียนได้เข้าถึงการศึกษาคุณภาพระดับโลก 

บทความนี้เราจะพามารู้จักกับมหาวิทยาลัยในต่างประเทศที่น่าสนใจ และได้รับความนิยมจากนักเรียนที่จบการศึกษาในหลักสูตรโรงเรียนนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนนานาชาติ หลักสูตรอังกฤษ หลักสูตรอเมริกัน หรือหลักสูตรอื่น ๆ เพื่อเป็นแนวทางสำหรับผู้ปกครองหรือนักเรียนที่กำลังมองหาโอกาสทางการศึกษาในต่างแดน 

สารบัญบทความ

• มหาวิทยาลัยต่างประเทศ เลือกยังไงให้เหมาะกับตัวเองมากที่สุด
• แนะนำ 12 มหาวิทยาลัยต่างประเทศยอดนิยม ที่เปิดรับนักเรียนจากโรงเรียนนานาชาติ
• สมัครเรียนต่อมหาวิทยาลัยต่างประเทศ ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง
• เรียนต่อมหาวิทยาลัยต่างประเทศ มีข้อดีอย่างไร
• เตรียมพร้อมสำหรับเรียนต่อมหาวิทยาลัยต่างประเทศ กับโรงเรียนนานาชาติรีเจ้นท์

มหาวิทยาลัยต่างประเทศ เลือกยังไงให้เหมาะกับตัวเองมากที่สุด

การวางแผนและศึกษาข้อมูลในการเลือกมหาวิทยาลัยต่างประเทศอย่างละเอียดรอบคอบ จะช่วยให้นักเรียนเลือกมหาวิทยาลัยที่เหมาะสมกับตัวเอง และประสบความสำเร็จทางการศึกษาตามที่ตั้งใจไว้ได้ สำหรับนักเรียนที่ใกล้จบการศึกษาจากโรงเรียนนานาชาติมัธยมศึกษา และวางแผนจะไปเรียนต่อต่างประเทศ แต่ไม่รู้จะเลือกมหาลัยไหนดี อาจพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ที่เรานำมาฝากทุกคน ดังต่อไปนี้

• หลักสูตรและสาขาที่ต้องการเรียนต่อ โดยพิจารณาจากความสนใจ ความชอบ และศักยภาพของผู้เรียนเป็นหลัก ตลอดจนคำนึงถึงประโยชน์ที่สามารถนำไปต่อยอดกับการทำงานในอนาคต 

• คุณภาพและชื่อเสียงของมหาวิทยาลัย เนื่องจากบางมหาวิทยาลัยในต่างประเทศมีหลักสูตรที่โดดเด่นแตกต่างกันไป การเลือกมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในหลักสูตรที่ผู้เรียนสนใจ อาจช่วยเพิ่มโอกาสการจ้างงานหลังเรียนจบได้ 

• ค่าใช้จ่ายในการเรียน การเรียนในต่างประเทศมีค่าใช้จ่ายที่สูงเมื่อเทียบกับมหาวิทยาลัยในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นค่าเล่าเรียน หรือค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิต ซึ่งจะขึ้นอยู่กับปัจจัยที่เลือกเรียนด้วย ดังนั้นจึงควรตรวจสอบค่าใช้จ่าย ตลอดจนการสนับสนุนทางการเงินหรือทุนการศึกษาจากทางมหาวิทยาลัยให้รอบคอบ เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถรับผิดชอบค่าเล่าเรียนไหว 

• สังคมและวัฒนธรรม เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการเรียนรู้และการดำรงชีวิตในมหาวิทยาลัยต่างประเทศ การทำความเข้าใจความหลากหลายทางสังคมและวัฒนธรรม จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถปรับตัวได้เร็วยิ่งขึ้น 

• ทำเลและที่ตั้งของมหาวิทยาลัย ควรตรวจสอบสภาพอากาศ สิ่งแวดล้อม หรือสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ว่าตัวเองสามารถปรับตัวอยู่ได้หรือไม่ เนื่องจากผู้เรียนต้องอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมดังกล่าวตลอดระยะเวลาในการศึกษา

• เป้าหมายหลังจากจบการศึกษา โดยอาจพิจารณาถึงโอกาสในการทำงาน ความก้าวหน้าในอาชีพ ตลอดจนวางเป้าหมายว่าต้องการทำงานในต่างประเทศ หรือกลับมาทำงานที่ประเทศไทยหลังจากจบการศึกษา 

แนะนำ 12 มหาวิทยาลัยต่างประเทศยอดนิยม ที่เปิดรับนักเรียนจากโรงเรียนนานาชาติ 

ปัจจุบันมีมหาวิทยาลัยต่างประเทศหลายแห่งที่รับสมัครนักเรียนจากหลักสูตรโรงเรียนนานาชาติทั่วโลกเข้าศึกษาต่อ ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนนานาชาติ หลักสูตร IB, โรงเรียนนานาชาติ หลักสูตร AP หรือโรงเรียนนานาชาติ หลักสูตร A Level เป็นต้น สำหรับผู้ปกครองที่ไม่แน่ใจว่าจะเลือกมหาวิทยาลัยต่างประเทศที่ไหนให้ลูกดี เราได้นำข้อมูลที่น่าสนใจของ 12 มหาวิทยาลัยยอดนิยมในต่างแดนที่มีชื่อเสียงระดับโลก และได้รับความนิยมจากนักเรียนไทยมาฝากทุกคน ดังต่อไปนี้ 

1. Oxford University, สหราชอาณาจักร

Oxford University เป็นมหาวิทยาลัยต่างประเทศอันดับหนึ่งและมีความเก่าแก่ที่สุดของโลก มหาวิทยาลัยแห่งนี้มีชื่อเสียงในด้านความเป็นเลิศทางวิชาการ และมีความโดดเด่นในด้านการวิจัยหลากหลายสาขา โดยเฉพาะสาขามนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ ทั้งยังเป็นที่รู้จักในด้านการเรียนการสอนและหลักสูตรการเรียนที่มีคุณภาพสูง เรียกได้ว่าเป็นมหาวิทยาลัยยอดนิยมอันดับหนึ่งสำหรับนักเรียนที่จบจากการศึกษาหลักสูตรโรงเรียนนานาชาติทั่วโลก

ค่าเทอมหรือค่าใช้จ่าย : อยู่ที่ประมาณ £28,950-44,240 ต่อปี ขึ้นอยู่กับแต่ละหลักสูตร

ค่าครองชีพ : ประมาณ £12,000-15,000 ต่อปี

เกณฑ์ผลคะแนนภาษาอังกฤษ : IELTS 7.0 ขึ้นไป หรือ TOEFL อย่างน้อย 110

2. University of Cambridge, สหราชอาณาจักร

University of Cambridge เป็นอีกหนึ่งในมหาลัยต่างประเทศชั้นนำของโลก มีชื่อเสียงทั้งด้านคุณภาพการวิจัยและการเรียนการสอน มีหลักสูตรปริญญาตรีกว่า 30 สาขา โดยหลักสูตรที่โดดเด่นและได้รับความนิยม เช่น วิศวกรรมศาสตร์, วิทยาศาสตร์, คณิตศาสตร์, บริหารธุรกิจ, กฎหมาย, มนุษยศาสตร์, สังคมศาสตร์ เป็นต้น เรียกได้ว่ามหาวิทยาลัยต่างประเทศแห่งนี้เป็นมหาวิทยาลัยที่มีความเป็นเลิศทางวิชาการ และมีหลากหลายหลักสูตรให้ผู้เรียนได้เลือกสรรตามความถนัด 

ค่าเทอมหรือค่าใช้จ่าย : อยู่ที่ประมาณ £23,340-39,741 ต่อปี ขึ้นอยู่กับแต่ละหลักสูตร

ค่าครองชีพ : ประมาณ £10,000-13,000 ต่อปี

เกณฑ์ผลคะแนนภาษาอังกฤษ : IELTS 7.0 ขึ้นไป หรือ TOEFL อย่างน้อย 110

3. University College London (UCL), สหราชอาณาจักร 

ขอบคุณรูปภาพจากเว็บไซต์ www.ucl.ac.uk

หนึ่งในมหาวิทยาลัยชั้นนำของอังกฤษอย่าง University College London (UCL) เป็นมหาวิทยาลัยต่างประเทศที่มีชื่อเสียงด้านวิชาการ รวมถึงมีความเป็นเลิศทางด้านการวิจัยและการเรียนการสอน มีหลักสูตรปริญญาตรีที่โดดเด่นในหลายสาขาวิชา เช่น วิทยาศาสตร์, สังคมศาสตร์, แพทยศาสตร์, กฎหมาย, สถาปัตยกรรมศาสตร์, เศรษฐศาสตร์ เป็นต้น 

ค่าเทอมหรือค่าใช้จ่าย : อยู่ที่ประมาณ £26,200-£38,300 ต่อปี ขึ้นอยู่กับหลักสูตรที่เลือก

ค่าครองชีพ : ประมาณ £15,000-£20,000 ต่อปี

เกณฑ์ผลคะแนนภาษาอังกฤษ : IELTS ต้องไม่ต่ำกว่า 6.5 หรือ TOEFL ไม่น้อยกว่า 92

4. Imperial College London, สหราชอาณาจักร

ขอบคุณรูปภาพจากเว็บไซต์ www.imperial.ac.uk

Imperial College London เป็นอีกหนึ่งมหาวิทยาลัยต่างประเทศในอังกฤษที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน โดยหลักสูตรที่โดดเด่นมีหลากหลายสาขาวิชา อาทิ วิศวกรรมศาสตร์, วิทยาศาสตร์, แพทยศาสตร์ หรือวิทยาการคอมพิวเตอร์ นักเรียนคนไหนที่ชื่นชอบสายวิทยาศาสตร์สุขภาพหรือการคำนวณ และกำลังมองหาโอกาสในการเรียนต่อมหาลัยต่างประเทศ สถาบันแห่งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ

ค่าเทอมหรือค่าใช้จ่าย : อยู่ที่ประมาณ £35,100-46,650 ต่อปี ขึ้นอยู่กับหลักสูตรที่เลือก

ค่าครองชีพ : ประมาณ £15,000-20,000 ต่อปี

เกณฑ์ผลคะแนนภาษาอังกฤษ : IELTS ต้องไม่ต่ำกว่า 6.5 หรือ TOEFL ไม่น้อยกว่า 92

5. London School of Economics and Political Science (LSE), สหราชอาณาจักร

ขอบคุณรูปภาพจากเว็บไซต์ https://www.siuk-thailand.com/profiles/university/london-school-of-economics/

London School of Economics and Political Science (LSE) เป็นมหาวิทยาลัยต่างประเทศที่อยู่ใจกลางกรุงลอนดอน มีชื่อเสียงและความเป็นเลิศทางด้านสังคมศาสตร์ อย่างสาขาวิชากฎหมาย, เศรษฐศาสตร์, ประวัติศาสตร์, ปรัชญา และการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยแห่งนี้จึงเหมาะกับนักเรียนที่มีความสนใจ และชื่นชอบการเรียนรู้ด้านสังคมศาสตร์เป็นอย่างยิ่ง

ค่าเทอมหรือค่าใช้จ่าย : อยู่ที่ประมาณ £23,330-28,930 ต่อปี ขึ้นอยู่กับแต่ละหลักสูตร

ค่าครองชีพ : ประมาณ £15,000-20,000 ต่อปี

เกณฑ์ผลคะแนนภาษาอังกฤษ : IELTS 7.0 หรือ TOEFL 100 ขึ้นไป 

6. Stanford University, สหรัฐอเมริกา

Stanford University เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา การศึกษาของมหาลัยต่างประเทศแห่งนี้ เป็นที่รู้จักในด้านความเป็นเลิศทางด้านการวิจัย นวัตกรรม และเทคโนโลยี โดยมีสาขาวิชาที่โดดเด่นอย่างวิศวกรรมศาสตร์และวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ นอกจากนี้ยังมีชื่อเสียงในด้านสาขาวิชาบริหารธุรกิจอีกด้วย ถือเป็นมหาวิทยาลัยอันดับต้น ๆ ที่นักเรียนทั่วโลกให้ความสนใจ และต้องการสมัครเข้าศึกษาต่อในอนาคต 

ค่าเทอมหรือค่าใช้จ่าย : อยู่ที่ประมาณ $60,000 ต่อปี แล้วแต่หลักสูตร

ค่าครองชีพ : ประมาณ $20,000 ต่อปี

เกณฑ์ผลคะแนนภาษาอังกฤษ : IELTS 7.0 หรือ TOEFL 100 ขึ้นไป 

7. Harvard University, สหรัฐอเมริกา

อีกหนึ่งสถาบันการศึกษาที่เรียกได้ว่ามีชื่อเสียงมากที่สุดในโลกคือ Harvard University นับเป็นมหาวิทยาลัยต่างประเทศที่นักเรียนทั่วโลกใฝ่ฝันถึง มหาวิทยาลัยแห่งนี้มีความโดดเด่นด้านความเป็นเลิศทางการศึกษาและการเรียนการสอนที่มีคุณภาพ โดยมีหลักสูตรมากมายให้นักเรียนนักศึกษาได้เลือกเรียนตามความสนใจ ทั้งยังเป็นศูนย์กลางการวิจัยระดับโลก ซึ่งหลักสูตรโดดเด่นที่เป็นที่รู้จัก เช่น เศรษฐศาสตร์, บริหารธุรกิจ, กฎหมาย และแพทยศาสตร์ 

ค่าเทอมหรือค่าใช้จ่าย : อยู่ที่ประมาณ $57,246 ต่อปี ขึ้นอยู่กับหลักสูตร

ค่าครองชีพ : ประมาณ $18,000-25,000 ต่อปี

เกณฑ์ผลคะแนนภาษาอังกฤษ : IELTS ไม่ต่ำกว่า 7.0 หรือ TOEFL อย่างน้อย 100 

8. Massachusetts Institute of Technology (MIT), สหรัฐอเมริกา

ขอบคุณรูปภาพจากเว็บไซต์ https://web.mit.edu

Massachusetts Institute of Technology (MIT) มหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลกที่หลายคนใฝ่ฝันอยากเข้าศึกษาต่อ โดยมหาวิทยาลัยแห่งนี้มีชื่อเสียงในด้านคุณภาพการเรียนการสอนที่เน้นการลงมือปฏิบัติจริง ทั้งยังเป็นเลิศด้านการวิจัยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และวิศวกรรมศาสตร์ กล่าวได้ว่านักเรียนคนไหนที่สนใจด้านวิศวกรรมศาสตร์ เทคโนโลยี รวมถึงนวัตกรรมใหม่ ๆ และต้องการเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยต่างประเทศดัง ๆ ก็ต้องนึกถึงมหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นอันดับต้น ๆ อย่างแน่นอน 

ค่าเทอมหรือค่าใช้จ่าย : อยู่ที่ประมาณ $57,590 ต่อปี ขึ้นอยู่กับหลักสูตรที่เลือกเรียน

ค่าครองชีพ : ประมาณ $18,000-24,000 ต่อปี

เกณฑ์ผลคะแนนภาษาอังกฤษ : IELTS อย่างน้อย 7.5 หรือ TOEFL 100 ขึ้นไป

9. The University of Melbourne, ออสเตรเลีย

นักเรียนคนไหนกำลังมองหาโอกาสไปเรียนมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ นอกเหนือจากประเทศอังกฤษและสหรัฐอเมริกา The University of Melbourne ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย เนื่องจากสถาบันแห่งนี้เป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่ชั้นนำของออสเตรเลียที่ได้รับความนิยมจากทั่วโลก มีชื่อเสียงด้านความเป็นเลิศทางวิชาการและการศึกษา ทั้งยังโดดเด่นในด้านการวิจัยและการเรียนการสอนที่มีคุณภาพสูง โดยมีหลักสูตรหลากหลายสาขาวิชาให้นักเรียนได้เลือกศึกษา อาทิ วิทยาศาสตร์, แพทยศาสตร์, วิศวกรรมศาสตร์, สังคมศาสตร์, เศรษฐศาสตร์, มนุษยศาสตร์ และบริหารธุรกิจ 

ค่าเทอมหรือค่าใช้จ่าย : อยู่ที่ประมาณ AUD 40,000-50,000 ต่อปี ขึ้นอยู่กับแต่ละหลักสูตร

ค่าครองชีพ : ประมาณ AUD 20,000-25,000 ต่อปี

เกณฑ์ผลคะแนนภาษาอังกฤษ : IELTS 6.5 หรือ TOEFL ไม่ต่ำกว่า 79 

10. The University of Sydney, ออสเตรเลีย

อีกหนึ่งมหาวิทยาลัยโด่งดังระดับโลกคือ The University of Sydney เป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่แห่งแรกของออสเตรเลีย ทั้งยังเป็นหนึ่งในเป้าหมายแรก ๆ ของใครหลายคนในการมาเรียนต่อที่มหาลัยต่างประเทศ มหาวิทยาลัยแห่งนี้มีความโดดเด่นด้านการศึกษาและการวิจัยระดับโลก โดยเปิดสอนหลากหลายหลักสูตร ไม่ว่าจะเป็น สาขาวิชาบริหารธุรกิจ, วิศวกรรมศาสตร์,วิทยาศาสตร์, กฎหมาย, แพทยศาสตร์, สัตวแพทย์ศาสตร์ หรือศิลปศาสตร์ เป็นต้น 

ค่าเทอมหรือค่าใช้จ่าย : อยู่ที่ประมาณ AUD 50,000-60,000 ต่อปี แล้วแต่หลักสูตรที่เลือก

ค่าครองชีพ : ประมาณ AUD 20,000-25,000 ต่อปี

เกณฑ์ผลคะแนนภาษาอังกฤษ : IELTS 6.5 หรือ TOEFL 85

11. University of Toronto, แคนาดา

ขอขอบคุณรูปภาพจากเว็บไซต์ https://www.harringtonhousing.com/

อีกหนึ่งในจุดหมายยอดนิยมในการไปเรียนต่อต่างประเทศที่มหาลัยที่มีชื่อเสียงอันดับหนึ่งของประเทศแคนาดา คงหนีไม่พ้น University of Toronto เป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำของโลกที่มีความเป็นเลิศทางด้านวิชาการ ทั้งการวิจัยและการเรียนการสอนที่มีคุณภาพ โดยมีหลักสูตรที่โดดเด่นหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น วิทยาการคอมพิวเตอร์, วิศวกรรมศาสตร์, วิทยาศาสตร์ชีวภาพ, แพทยศาสตร์, เศรษฐศาสตร์, บริหารธุรกิจ หรือศิลปศาสตร์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีคณะและสาขาวิชาให้นักศึกษาได้เลือกเรียนอีกมากกว่า 700 หลักสูตร

ค่าเทอมหรือค่าใช้จ่าย : อยู่ที่ประมาณ CAD 58,160-66,040 ต่อปี ขึ้นอยู่กับหลักสูตร

ค่าครองชีพ : ประมาณ CAD 15,000-20,000 ต่อปี

เกณฑ์ผลคะแนนภาษาอังกฤษ : IELTS 6.5 หรือ TOEFL 100 ขึ้นไป

12. ETH Zurich, สวิตเซอร์แลนด์

ขอขอบคุณรูปภาพจากเว็บไซต์ https://ethz.ch/en.html

อีกหนึ่งมหาวิทยาลัยต่างประเทศชื่อดังที่หลายคนต้องการไปศึกษาต่อคือ ETH Zurich หรือ Swiss Federal Institute of Technology ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สถาบันการศึกษาแห่งนี้เป็นที่รู้จักในด้านความเป็นเลิศทางวิชาการ การวิจัยที่ทันสมัย รวมถึงการศึกษาที่มีประสิทธิภาพสูง โดยมีหลักสูตรที่โดดเด่นอย่างวิทยาศาสตร์, เทคโนโลยี, วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ นักเรียนคนไหนที่กำลังมองหาที่เรียนต่อด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่มีคุณภาพ มหาวิทยาลัยแห่งนี้ก็นับว่าน่าสนใจอย่างยิ่ง 

ค่าเทอมหรือค่าใช้จ่าย : อยู่ที่ประมาณ CHF 1,280 ต่อปี ขึ้นอยู่กับหลักสูตร

ค่าครองชีพ : ประมาณ CHF 18,000-20,000 ต่อปี

เกณฑ์ผลคะแนนภาษาอังกฤษ : IELTS 7.0 หรือ TOEFL 100 ขึ้นไป

สมัครเรียนต่อมหาวิทยาลัยต่างประเทศ ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง

สิ่งสำคัญในการเรียนต่อมหาวิทยาลัยต่างประเทศที่ต้องรู้คือ การเตรียมเอกสารและหลักฐานต่าง ๆ สำหรับสมัครเรียนให้พร้อม ทั้งนี้เอกสารที่ใช้อาจแตกต่างกันไปตามแต่ละหลักสูตรและมหาวิทยาลัย แต่โดยพื้นฐานแล้วมีเอกสารที่จำเป็นหลัก ๆ ดังนี้ 

1. สำเนาพาสปอร์ต
2. ใบสมัครเข้าศึกษาต่อของมหาวิทยาลัย 
3. ใบจบการศึกษา (Graduation Certificate) เช่น IB Diploma หรือ GCE Advanced Level
4. เอกสารแสดงผลการเรียน (Transcript)
5. ผลคะแนนสอบภาษาอังกฤษ ตามที่หลักสูตรหรือสถาบันการศึกษากำหนด เช่น TOEFL หรือ IELTS
6. จดหมายรับรองจากอาจารย์หรือหัวหน้างาน (Recommendation Letters) 
7. จดหมายแนะนำตัว (Statement of Purpose : SOP)
8. ผลงานส่วนตัว เช่น Resume หรือ Portfolio (ตามที่หลักสูตรกำหนด)

เรียนต่อมหาวิทยาลัยต่างประเทศ มีข้อดีอย่างไร

การไปเรียนมหาวิทยาลัยต่างประเทศ มีข้อดีหลายประการที่ช่วยพัฒนาทักษะและความสามารถของผู้เรียนในหลาย ๆ ด้าน ซึ่งจะนำไปสู่ความสำเร็จในอนาคตตามที่ผู้เรียนได้ตั้งเป้าหมายไว้ ดังต่อไปนี้ 

• พัฒนาทักษะทางภาษา เนื่องจากนักเรียนนักศึกษาจะได้ใช้ภาษาต่างประเทศในการสื่อสารอย่างเต็มรูปแบบ ดังนั้นการไปเรียนต่อต่างประเทศจึงช่วยให้นักเรียนได้พัฒนาทักษะด้วยตัวเองอย่างเต็มที่ ซึ่งนอกจากภาษาอังกฤษแล้ว ยังได้รับโอกาสในการเรียนรู้ภาษาที่สามเพิ่มอีกด้วย 

• มีมุมมองความคิดที่เป็นสากล โดยนักเรียนจะได้เรียนรู้การใช้ชีวิตในสังคมที่มีความหลากหลายทั้งด้านสังคมและวัฒนธรรม ซึ่งจะช่วยสร้างมุมมองที่เป็นสากลและเปิดกว้างทางความคิดมากยิ่งขึ้น 

• สัมผัสการศึกษาคุณภาพระดับโลก มหาวิทยาลัยต่างประเทศแต่ละแห่งล้วนมีการสอนและหลักสูตรการเรียนที่มีคุณภาพระดับโลก ซึ่งจะช่วยให้นักเรียนได้ความรู้และนำทักษะต่าง ๆ ที่ได้ไปต่อยอดสู่ความสำเร็จในอนาคตได้ 

• เพิ่มโอกาสการทำงานในต่างประเทศ การจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยต่างประเทศเปรียบเสมือนการรับรองทักษะ องค์ความรู้ และความพร้อมในการเข้าสู่สังคมการทำงาน นักเรียนที่จบการศึกษาจากต่างประเทศจึงมักมีโอกาสได้รับคัดเลือกเข้าทำงานสูง 

• ได้รับประสบการณ์ชีวิตอันล้ำค่า การเรียนต่างประเทศนอกจากจะได้เรียนรู้ในสิ่งที่ตนเองสนใจแล้ว นักเรียนจะได้สัมผัสวัฒนธรรม วิถีชีวิต ตลอดจนสภาพแวดล้อมที่แตกต่างไปจากเดิม ทั้งยังได้รู้จักกับเพื่อนใหม่ ๆ ที่มาจากหลากหลายสังคม นับว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตที่มีค่าอย่างยิ่ง

เตรียมพร้อมสำหรับเรียนต่อมหาวิทยาลัยต่างประเทศ กับโรงเรียนนานาชาติรีเจ้นท์

การเรียนต่อมหาวิทยาลัยต่างประเทศนับเป็นทางเลือกที่ช่วยเพิ่มโอกาสทางการศึกษาให้แก่นักเรียน ทั้งยังช่วยให้นักเรียนได้เปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ในโลกกว้าง ที่มีสังคมแตกต่างและสภาพแวดล้อมหลากหลาย ซึ่งจะทำให้เกิดการพัฒนาทักษะต่าง ๆ อย่างเต็มที่ การเรียนต่อในต่างแดนจึงเป็นทางเลือกผู้ปกครองและนักเรียนจากโรงเรียนนานาชาติให้ความสนใจอย่างมาก 

โรงเรียนนานาชาติรีเจ้นท์ เราเป็นหนึ่งในโรงเรียนนานาชาติชั้นนำในไทยที่มีระบบการศึกษาเพื่อช่วยเตรียมความพร้อมสำหรับการเรียนต่อมหาวิทยาลัยต่างประเทศให้แก่นักเรียนโดยเฉพาะ โดยมีหลักสูตรที่เป็นที่ยอมรับจากมหาวิทยาลัยทั่วโลกอย่าง IBDP ทั้งยังมีกิจกรรมนอกหลักสูตร เช่น การแข่งขันทางวิชาการ การทำโครงงาน รวมถึงการฝึกงาน ที่จะช่วยเสริมสร้างทักษะและประสบการณ์ที่มหาวิทยาลัยต้องการให้กับเด็ก นอกจากนี้เรายังมีเครือข่ายกับมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ทั่วโลกที่จะมาให้ข้อมูลการศึกษาต่อแก่นักเรียนอีกด้วย ดังนั้นจึงมั่นใจได้เลยว่านักเรียนของเราจะมีโอกาสสูงในการข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยต่างประเทศที่หลายคนต้องการอย่างแน่นอน