หลักสูตร A-Level

หลักสูตร A-Level คืออะไร? ไขข้อสงสัยก่อนศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัย

หลักสูตร A-Level

ใครที่ใฝ่ฝันว่าสักวันหนึ่งอยากจะไปศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยต่างประเทศ ควรศึกษาเรื่องการสอบ A-Level ในไทยไว้ เนื่องจากหลักสูตร A-Level เป็นหนึ่งในหลักสูตรที่สำคัญ เพื่อเตรียมความพร้อมสู่การเรียนระดับมหาวิทยาลัย ในบทความนี้เราได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจ ซึ่งนักเรียนที่ยังศึกษาอยู่ในโรงเรียนนานาชาติมัธยมศึกษาควรรู้ไว้ โดยเฉพาะนักเรียนที่ต้องการเรียนต่อในระดับสูงที่ประเทศอังกฤษ หากทุกคนพร้อมแล้ว ไปทำความรู้จักกันเลยว่าข้อสอบ A-Level คืออะไร พร้อมไขข้อสงสัยเรื่องการสอบ IGCSE และ A-Level ว่าแตกต่างกันอย่างไรบ้าง

สารบัญบทความ

หลักสูตร A-Level คืออะไร? อยากสอบต้องเรียนทั้งหมดกี่ปี

หลักสูตร A-Level (Advanced Level) เป็นหลักสูตรการศึกษาขั้นสูงในระบบการศึกษาของสหราชอาณาจักร โดยเฉพาะโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทย ซึ่ง A-Level ออกแบบมาสำหรับนักเรียนที่มีอายุประมาณ 16-18 ปี หรือในระดับ Year 12-13 ที่เทียบเท่ากับระดับมัธยมศึกษาปีที่ 5-6 ในระบบการศึกษาของประเทศไทย หากนักเรียนที่ศึกษาในหลักสูตรโรงเรียนนานาชาติได้ทำการสอบ GCE A-Level หรือ General Certificate of Education Advanced Level เรียบร้อยแล้ว ก็จะได้รับวุฒิการศึกษาเทียบเท่าระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในระบบการศึกษาของไทย

โดยหลักสูตร A-Level มีระยะเวลาการเรียนประมาณ 2 ปี แบ่งเป็นปีแรกที่เรียกว่า AS-Level (Advanced Subsidiary Level) และปีที่สองที่เรียกว่า A2-Level ทั้งสองหลักสูตรจะนำมารวมกันเป็นหลักสูตร A-Level เต็มรูปแบบที่เราเรียกกัน แล้วทั้งสองระดับนี้แตกต่างกันอย่างไร? ไปหาคำตอบกันเลย!

AS-Level (Advance Subsidiary Levels)

AS-Level (Advanced Subsidiary Level) เป็นการสอบในปีแรกของหลักสูตร A-Level ในระบบการศึกษาของสหราชอาณาจักร โดยนักเรียนจะสอบ AS-Level หลังจากเรียนวิชาที่เลือกมาแล้ว 1 ปี ซึ่งเป็นขั้นตอนระดับแรกก่อนเข้าสู่การเรียนและสอบในระดับ A2-Level ในปีถัดไป

AS-Level มีความสำคัญอย่างมาก เพราะผลสอบที่ได้จากการสอบสามารถใช้สมัครเข้ามหาวิทยาลัยได้ แม้จะไม่ครอบคลุมเท่ากับคะแนน A-Level แบบครบหลักสูตร แต่ก็ช่วยประเมินความพร้อมในการเตรียมตัวสำหรับการสอบในระดับ A2-Level ได้เช่นกัน ซึ่งการเรียน A-Level ในระดับนี้จะอยู่ในช่วง Year 12 และคะแนนที่ได้จะแบ่งเป็นเกรด A-E ตามลำดับ

A2-Level (Advance Levels)

A2-Level (Advance Levels) เป็นการสอบในปีที่สองของหลักสูตร A-Level หลังจากที่นักเรียนได้สอบ AS-Level ในปีแรกแล้ว โดยนักเรียนจะเรียนเนื้อหาที่เข้มข้นขึ้น ผลการสอบในระดับ A2-Level จะถูกนับรวมกับผลสอบ AS-Level เพื่อให้ได้คะแนน A-Level ครบหลักสูตร โดยการเรียนระดับนี้จะอยู่ในช่วง Year 13 และคะแนนที่ได้จะออกมาเป็นเกรด A*-E เมื่อนักเรียนทำการสอบครบทั้ง AS-Level และ A2-Level จะถือว่าเรียน A-Level ได้ครบหลักสูตรแล้วนั่นเอง

ผู้ที่เรียนหลักสูตร A-Level สามารถเลือกเรียนแค่ครึ่งหนึ่งของหลักสูตรได้ โดยหากเลือกเรียนเฉพาะ AS-Level นักเรียนจะได้รับผลคะแนนเพียงครึ่งหนึ่งของหลักสูตรเท่านั้น การสอบ AS-Level จะได้ 1 เครดิตต่อวิชา ส่วนจำนวนเครดิตที่ได้รับจากการสอบ A2-Level จะอยู่ที่ 2 เครดิตต่อวิชา ทำให้นักเรียนต้องสอบให้ครบ 6 เครดิต เพื่อที่จะได้รับ Diploma ของระดับ A-Level โดยสามารถนับเครดิตรวมจาก AS-Level และ A2-Level ได้ตามต้องการ

หลักสูตร A-Level โรงเรียนนานาชาติ กับการสอบ A-Level (Applied Knowledge Level) คือหลักสูตรเดียวกันหรือไม่? 

หลักสูตร A-Level ของโรงเรียนนานาชาติและการสอบ A-Level ของนักเรียนมัธยมปลายทั่วไปมีความแตกต่างกัน หลักสูตร A-Level หรือ The General Certificate of Education Advanced Level Certificate ของโรงเรียนนานาชาติ ถูกออกแบบให้สอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษาระดับสากล โดยเน้นการเรียนรู้ที่หลากหลาย และใช้วิธีการสอนที่เป็นไปตามมาตรฐานของสหราชอาณาจักร สำหรับรองรับนักเรียนจากหลากหลายประเทศ โดยการสอบ A-Level มักประกอบด้วยการสอบกลางภาค การสอบปลายภาค และการประเมินผลงานตามมาตรฐานของผู้เรียน

ในขณะที่การสอบ Applied Knowledge Level หรือที่เราคุ้นชินกันอย่าง A-Level ของนักเรียนมัธยมปลาย คือ การสอบที่มีเนื้อหาและวิธีการสอบที่เน้นตามมาตรฐานของประเทศนั้น ๆ หรือเรียกว่าเป็นข้อสอบวัดความรู้เชิงวิชาการ ซึ่งมีความแตกต่างจากการสอบ A-Level หลักสูตรนานาชาติ เพราะการสอบ A-Level ของนักเรียนมัธยมปลายไม่ครอบคลุมเนื้อหาหรือมาตรฐานที่เป็นสากลเท่าไรนัก 

หลักสูตร A-Level มีวิชาอะไรบ้าง? 

คะแนน A-Level คือ

หลักสูตร A-Level เป็นหลักสูตรการศึกษาที่ประกอบด้วย 66 วิชา และแบ่งออกเป็น 5 กลุ่มวิชาหลักที่ครอบคลุมสาระความรู้ในด้านต่าง ๆ ดังนี้

  1. กลุ่มวิชาภาษา (Language) เช่น Chinese, German หรือ French เป็นต้น
  2. กลุ่มวิชามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ (Humanities & Social Science) เช่น Law, Economics, Geography
  3. กลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์ (Science) เช่น Biology, Environmental Managemant (AS Only), Physics เป็นต้น
  4. กลุ่มวิชาคณิตศาสตร์ (Mathematics) เช่น Mathematics หรือ Mathematics – Further เป็นต้น
  5. กลุ่มวิชาทักษะวิชาชีพ (Creative, Technical and Vocational) เช่น Digital Media & Design, Drama, Accounting, Business เป็นต้น

ในส่วนของการคิดคะแนนของ A-Level เมื่อนักเรียนทำข้อสอบเสร็จ ข้อสอบบางส่วนจะถูกส่งไปให้ผู้ตรวจ (Examiner) จาก Cambridge เพื่อตรวจสอบมาตรฐานการให้คะแนนในปีนั้น ๆ ก่อน จากนั้นทีมผู้ตรวจจะตรวจข้อสอบทั้งหมดและคำนวณคะแนนดิบ (Raw Score) ของผู้สอบแต่ละคน แล้วนำคะแนนดิบที่ได้ทั้งหมดมากำหนด “Grade Boundaries” หรือเกณฑ์คะแนนขั้นต่ำของแต่ละเกรด ซึ่งเกณฑ์นี้แต่ละปีจะไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของข้อสอบและระดับความสามารถของนักเรียนในปีนั้น ๆ และสุดท้าย ทีมผู้ตรวจจะนำคะแนนดิบของผู้สอบมาเทียบกับ Grade Boundaries และให้เกรดตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้

หลักสูตร A Level กับหลักสูตร IB แตกต่างกันอย่างไร?

หลักสูตร A-Level กับ IB เป็นสองหลักสูตรการศึกษาสากลที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ นักเรียนระดับมัธยมปลายสามารถเลือกเรียนหลักสูตรใดหลักสูตรหนึ่ง เพื่อเตรียมตัวสำหรับการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย โดยหลักสูตรทั้งสองมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการทางการศึกษาที่หลากหลายและเหมาะสมกับแนวทางการเรียนรู้ของนักเรียนที่ต่างกัน โดยความแตกต่างของทั้งสองหลักสูตรมีดังนี้

หลักสูตร A Level (Advanced Level)

หลักสูตร A-Level เน้นการเรียนลึกในวิชาเฉพาะที่นักเรียนสนใจ โดยนักเรียนจะเลือกเรียนเพียง 3-4 วิชา และแต่ละวิชาจะลงรายละเอียดอย่างเข้มข้น การประเมินผลส่วนใหญ่จะมาจากการสอบ ซึ่งหลักสูตรนี้เหมาะสำหรับนักเรียนที่มีเป้าหมายชัดเจนว่าจะศึกษาต่อในสาขาใดและต้องการเจาะลึกในวิชานั้น ๆ หลักสูตรนี้ยืดหยุ่นในเรื่องการเลือกวิชา ทำให้นักเรียนสามารถโฟกัสในสิ่งที่ตนสนใจได้โดยตรง

หลักสูตร IB (International Baccalaureate)

หลักสูตร IB มีจุดเด่นที่หลากหลายและเข้มงวดมากกว่า โดยนักเรียนต้องเรียนทั้งหมด 6 วิชาจากหลากหลายกลุ่มวิชาเลือก รวมถึงยังต้องทำโครงงานวิจัย (Extended Essay) และเข้าร่วมกิจกรรมเสริมสร้างประสบการณ์ (CAS) โดยการประเมินผลจะเป็นแบบผสมระหว่างการสอบ งานที่ทำระหว่างเรียน และกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งหลักสูตร IB นี้จะเน้นพัฒนานักเรียนในทุกด้าน ทั้งด้านวิชาการ การคิดวิเคราะห์ และทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น ทำให้หลักสูตรนี้เหมาะกับการเตรียมความพร้อมที่ครอบคลุมในการเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย

ควรเลือกเรียนหลักสูตร A Level หรือหลักสูตร IB ? 

ลักสูตร IB กับ A-Level เป็นสองตัวเลือกที่นักเรียนสามารถเลือกเรียนเพื่อเตรียมตัวเข้าสู่มหาวิทยาลัย โดยมีลักษณะและความเหมาะสมที่แตกต่างกัน

A-Level เน้นการเรียนรู้ในเชิงลึกของวิชาที่ผู้เรียนสนใจ โดยนักเรียนสามารถเลือกเรียนได้ 3-4 วิชา ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนได้ความรู้ที่เข้มข้นแบบเฉพาะทางในสาขาที่เลือก หลักสูตร A-Level จึงเหมาะสำหรับผู้ที่วางแผนอนาคตอย่างชัดเจนในสายอาชีพ หรือสาขาวิชาที่ต้องการศึกษา เช่น วิทยาศาสตร์วิศวกรรมศาสตร์ หรือคณิตศาสตร์ที่ต้องการการเตรียมตัวอย่างต่อเนื่อง

แต่หลักสูตร IB เป็นหลักสูตรที่มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะรอบด้าน โดยนักเรียนสามารถเลือกเรียนได้หลายวิชา ทำให้มีโอกาสสำรวจและพัฒนาความรู้ในหลายด้าน ไม่เพียงแค่เนื้อหาวิชาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการคิดวิเคราะห์และการสื่อสารระหว่างการเรียนการสอน ซึ่งจะช่วยเตรียมความพร้อมผู้เรียนในการศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัย

ซึ่งจุดเด่นของหลักสูตร IB ที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน คือความยืดหยุ่นและการเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้พัฒนาทักษะที่สำคัญ เช่น การทำงานร่วมกับผู้อื่น การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และการคิดวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ ทำให้หลักสูตรนี้ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลกอีกด้วย

เรียนรู้หลักสูตร IB จากโรงเรียนนานาชาติรีเจ้นท์ เพื่อปูพื้นฐานการศึกษาในระดับมหาวิยาลัย

หลักสูตร A-Level คือ

จบกันไปแล้วกับเนื้อหาหลักสูตร A-Level ที่เราได้นำมาฝากทุกคน และสำหรับนักเรียนคนไหนที่ต้องการเข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยชั้นนำในต่างประเทศ โรงเรียนนานาชาติรีเจ้นท์เป็นโรงเรียนนานาชาติ หลักสูตร IB ที่เน้นมาตรฐานการศึกษาระดับสากล โดยหลักสูตรนี้ของรีเจ้นท์นี้ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมให้นักเรียนพัฒนาทั้งในด้านวิชาการและทักษะส่วนบุคคล โดยหลักสูตร IB จะเน้นให้ผู้เรียนมีความคิดสร้างสรรค์ วิเคราะห์อย่างลึกซึ้ง และมีความรับผิดชอบต่อสังคม รวมถึงเปิดโอกาสให้นักเรียนได้พัฒนาทักษะที่จำเป็น เพื่อนำไปสู่ความสำเร็จในการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก

ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลการลงทะเบียนเรียนได้ที่ : 

We use cookies on our website to give you the most relevant experience by remembering your preferences and repeat visits. You can read more about our Privacy Policy However, you may visit Settings to provide a controlled consent.

Privacy Preferences

This website uses cookies and other tools to distinguish you from other users of the website. This helps us to provide you with a good experience when you use the website and also allows us to improve the website. By continuing to use the website, you are agreeing to and giving us consent to using cookies and other same technologies as cookies, and placing them on your electronic device.

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Strictly Necessary Cookies
    Always Active

    Necessary cookies are required for the operations of the website. They include, for example, cookies that enable basic functions like page navigation or enable users to log into secure areas of the website. The website cannot function properly without these cookies and Company is not necessary to required your consent to place these cookies on your device. These cookies do not collect any personally identifiable information.

  • Performance Cookies

    Performance cookies allow the Company to perceive website performance, for example, number of visits and traffic sources. So Company can measure and improve the performance of our site. They enable the Company to understand how users interact with the website by collecting and reporting information anonymously which helps us improve the user experience. If you do not allow these cookies, we will not know when you have visited our website and will not be able to monitor its performance. However, they do not contain personal information such as name and email address, so they cannot be used to identify you. Instead, the Company will only use such information for statistical purposes to improve website performance and the user experience.

  • Functional Cookies

    Functionality cookies may be set by us or by third party providers. They enable the website to operate in accordance with your preferences, for example, to recognize your username and remember how you customized the site during future visits. If you do not allow these cookies, then some or all of these services may not function properly.

  • Targeting Cookies

    Targeting cookies may be set by us or by third party providers. They will record your visit to our website, for example, the pages you have visited and the links you have followed. We will use this information to make our website and the advertising displayed on website and affiliate websites related to providers of online advertising and our social media and social medias related providers of online advertising more relevant to your interests. We may also share this information with third parties for this purpose. If you do not allow these cookies, you will experience less targeted advertising.

Save